เพราะเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ หากวันหนึ่งรถหาย โดนขโมยทั้งๆ ที่ยังผ่อนไม่หมด ยังจะต้องผ่อนต่อหรือไม่ ประกันจะช่วยอะไรบ้าง? วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก
เกิดเหตุไม่คาดฝัน! รถหาย โดนขโมยแต่ยังผ่อนไม่หมด ต้องผ่อนต่อหรือไม่?
สำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์นอกจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ปัญหารถหาย โดนขโมยถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่น่ากังวล บางทีป้องกันอย่างดีก็ยังโดนแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้เราจึงอยากเอาความรู้ดีๆ กรณีที่รถหาย โดยขโมยมาแบ่งปัน ไปหาคำตอบพร้อมๆ กันว่า หากรถหาย โดนขโมยแต่ยังผ่อนไม่หมด ต้องผ่อนต่อหรือไม่ แล้วต้องทำอย่างไรบ้าง?
รถหาย ต้องผ่อนต่อหรือไม่?
หลายคนเกิดคำถาม ถ้ารถหายแล้วยังผ่อนไม่หมด ยังต้องผ่อนต่อหรือไม่? คำตอบจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
กรณีทำประกันรถยนต์
สำหรับผู้ที่ทำประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมกรณีรถหายอย่างประกันรถยนต์ชั้น 1, ชั้น 2 หรือชั้น 2+ เอาไว้ แล้วเกิดเหตุรถหาย ไม่ต้องกังวล ให้รีบแจ้งความ นำเอกสารทั้งหมดรวมถึงบันทึกประจำวันที่ทางตำรวจออกให้ ไปยื่นขอค่าสินไหมทดแทนกับบริษัทประกัน บริษัทประกันจะทำเรื่องชดใช้ค่าเสียหายให้กับไฟแนนซ์ตามจำนวนเงินทุนประกันที่ทำไว้ หากรถที่ติดไฟแนนซ์อยู่มีมูลค่าต่ำกว่าเงินทุนประกัน เจ้าของรถจะได้รับเงินส่วนต่างนั้นด้วย ในทางกลับกันหากรถมีราคาสูงกว่าทุนประกันที่ทำไว้ เจ้าของรถจะต้องจ่ายส่วนต่างที่เหลือ โดยสามารถเจรจาต่อรองขอไกล่เกลี่ยกับทางไฟแนนซ์ได้
กรณีไม่ได้ทำประกันรถยนต์
กรณีรถหายแต่ไม่ได้ทำประกันรถยนต์ ก็ไม่ต้องผ่อนค่างวดต่อเช่นเดียวกัน แต่จะต้องรีบแจ้งไฟแนนซ์ทันที หลังจากนั้นทางไฟแนนซ์จะดำเนินการฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของรถในภายหลัง ถึงแม้จะไม่ต้องผ่อนต่อ แต่ก็จะต้องจ่ายค่าเสียหายในส่วนนี้อยู่ หากไฟแนนซ์ไม่ฟ้องศาลตามขั้นตอน แต่ให้ผ่อนชำระต่อ เจ้าของรถสามารถไปยื่นคำร้องต่อศาลเองได้ ทั้งนี้ศาลจะเป็นผู้ตัดสินว่าต้องผ่อนค่างวดรถต่อหรือไม่ หรือต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับทางไฟแนนซ์เป็นจำนวนเท่าไหร่
ถึงแม้ว่าทั้ง 2 กรณีจะไม่ต้องผ่อนชำระค่างวดรถต่อ แต่การไม่มีประกันรถยนต์คุ้มครอง จะทำให้คุณต้องชดใช้ค่าเสียหายเอง ทางที่ดีทำประกันรถยนต์ที่คุ้มครองกรณีรถหายเอาไว้จะดีกว่า แต่ถ้าหายจากความประมาท เช่น ลืมกัญแจไว้ในรถ ลืม ล็อกประตูรถ กรณีเหล่านี้ประกันก็จะไม่จ่ายเช่นกัน
รถหาย ถูกขโมย ต้องทำอย่างไร?
ใครที่รถหาย ถูกขโมยสิ่งแรกที่ต้องทำคือ การตั้งสติ ตรวจสอบให้แน่ชัดว่ารถหายจริงๆ หรือไม่ เพราะบางทีอาจเกิดจากความเข้าใจผิด เช่น จอดผิดที่ หรือมีคนรู้จักยืมไป เมื่อแน่ชัดแล้วว่ารถหายให้เตรียมข้อมูลให้ได้มากที่สุด เช่น ป้ายทะเบียนรถยนต์ ยี่ห้อ สี รุ่นของรถ รวมถึงสถานที่จอดล่าสุด จากนั้นให้ทำตาม วิธีดังนี้
- แจ้งความทันที
กรณีรถหาย สามารถโทรไปแจ้งได้ที่ สายด่วนรถหาย โทร. 1192 จะมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการรับเรื่อง พร้อมสอบถามรายละเอียดเบื้องต้น รวมถึงต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจด้วยเพื่อเป็นหลักฐานว่ารถของคุณหายไปจริงๆ
- แจ้งบริษัทไฟแนนซ์
สำหรับรถยนต์ที่ยังติดไฟแนนซ์ หรือยังผ่อนไม่หมด หากรถหายให้แจ้งบริษัทไฟแนนซ์ทันที เพื่อขอหยุดการผ่อนชำระ และให้บริษัทไฟแนนซ์ดำเนินการขั้นต่อไป
- แจ้งบริษัทประกัน
หากทำประกันรถยนต์ ที่คุ้มครองกรณีรถหายเอาไว้ ให้โทรแจ้งบริษัทประกัน โดยเจ้าหน้าที่จะสอบถามรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องรถหาย หลังจากนั้นบริษัทประกันจะทำการตรวจสอบ ไปจนถึงการติดตามรถที่สูญหายเบื้องต้น หากพบว่ารถยนต์มีการหายจริง และไม่สามารถตามคืนกลับมาได้ บริษัทประกันจะดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
อย่างที่บอกไปว่าเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่า รถของคุณจะถูกขโมยหรือไม่ จะเกิดอุบัติเหตุเมื่อไหร่ เพราะเรื่องพวกนี้บางครั้งต่อให้เราป้องกันขนาดไหนก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเพื่อความอุ่นใจควรทำประกันรถยนต์ โดยเฉพาะประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองกรณีรถหาย อย่าง ประกันรถยนต์ชั้น1 ชั้น2 และชั้น2+ เอาไว้ สำหรับผู้ขับขี่ที่สนใจทำประกันรถยนต์ที่มาพร้อมความคุ้มค่า แนะนำให้ทำประกันรถยนต์กับ Rabbit Care นอกจากจะได้เบี้ยประกันราคาดี ยังได้สิทธิประโยชน์อีกมากมาย รับประกันเรื่องความคุ้มค่า สามารถเข้าไปเลือกกรมธรรม์ที่ตรงตามไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณได้ที่ www.rabbitcare.com